NOVO

  • portfolio
  • photography
  • blog
  • shop
  • fashion

ศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift Surgery)

          การศัลยกรรมดึงหน้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ Facelift / Rhytidectomy คือการผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหน้าและปรับชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ที่หย่อนคล้อยตามวัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทำให้ดูแข็งหรือแปลกตา

          ในปัจจุบัน การศัลยกรรมดึงหน้าเริ่มได้รับความนิยมในช่วงอายุที่น้อยลง เนื่องจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามวัย, ภาวะชราก่อนวัยอันควร, หรือแม้แต่การศัลยกรรมเพื่อ ฟื้นฟูหลังอุบัติเหตุ ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจเข้ารับการดึงหน้าเร็วขึ้นกว่าสมัยก่อน

นอกจากนี้ การดึงหน้ายังมีให้เลือกหลายวิธี ซึ่งแตกต่างกันไปตามปัญหาเฉพาะบุคคล, อายุ, และผลลัพธ์ที่ต้องการ ทั้งแบบดึงเฉพาะจุด ไปจนถึงการปรับโครงสร้างชั้นลึก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และคงอยู่ได้ยาวนาน

ทำไมคนยุคใหม่ถึงเริ่ม “ดึงหน้า” เร็วขึ้น

          ในอดีต การศัลยกรรมดึงหน้ามักเป็นเรื่องของผู้สูงวัยที่มีปัญหาริ้วรอยลึกหรือความหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน แต่ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่เริ่มตระหนักถึงการดูแล โครงสร้างผิว ตั้งแต่อายุยังน้อย และเลือก ดึงหน้าเชิงป้องกัน ก่อนผิวจะเสื่อมสภาพมากเกินไป

 

เหตุผลหลักที่ทำให้คนยุคใหม่เริ่มดึงหน้าเร็วขึ้น

  • ภาวะชราก่อนวัย (Early Aging) จากความเครียด, พักผ่อนน้อย, แสงแดด หรือมลภาวะ
  • พฤติกรรมติดจอ / ติดมือถือ ทำให้เกิด “ร่องแก้ม”, “เหนียง”, หรือ “ใบหน้าหมองคล้ำ” เร็วกว่าปกติ
  • หัตถการยกกระชับชั่วคราวไม่ได้ผลแล้ว (เฉพาะบุคคล) เช่น Ulthera, HIFU, Thermage
  • ต้องการฟื้นฟูจากอุบัติเหตุ หรือแก้ไขความไม่สมมาตรของใบหน้า
  • เทคโนโลยีใหม่ทำให้การผ่าตัดปลอดภัย เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว จึงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

 

ประเภทของการดึงหน้า (Facelift Types)

          การดึงหน้าในปัจจุบันไม่ใช่แค่ ยกผิว แต่คือการฟื้นฟูทั้งโครงสร้างอย่างเป็นระบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลายแบบ ตามระดับความหย่อนคล้อย และความต้องการของแต่ละคน

1. การดึงแบบ Mini Facelift (ดึงหน้าแบบเล็ก)

เหมาะสำหรับ : ผู้มีอายุ 35–45 ปี เริ่มมีร่องแก้ม, ผิวหย่อนเล็กน้อย

ลักษณะ : ดึงเฉพาะบางจุด เช่น ร่องแก้ม กรอบหน้า แผลเล็ก ฟื้นตัวไว

ข้อดี : เจ็บน้อย ไม่ต้องดมยาสลบ พักฟื้นสั้น ผลลัพธ์ชัดเจนในคนอายุน้อย

2. การดึงแบบ Standard Facelift (ดึงหน้าทั่วหน้า)

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ผิวหย่อนชัดเจน

ลักษณะ : ดึงตั้งแต่แนวแก้ม กราม คาง และคอ พร้อมปรับชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS)

ข้อดี : ยกกระชับโครงสร้างลึก ผลลัพธ์ชัดและอยู่ได้นาน 5–10 ปี

3. การดึงแบบ Deep Plane Facelift (เทคนิคขั้นสูง)

เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ ยกแบบไม่แข็ง หรือเคสที่มีความหย่อนระดับมาก

ลักษณะ : ดึงลึกถึงชั้นใต้กล้ามเนื้อ ยกทั้งแก้ม-คาง-คอเป็นผืนเดียว

ข้อดี : เป็นธรรมชาติสูงสุด ไม่ดูแข็ง/ตึงแบบดึงผิวอย่างเดียว ผลอยู่ได้นานมาก

4. การดึงแบบ Neck Lift (ดึงลำคอ)

เหมาะสำหรับ : ผู้มีปัญหาเหนียง คอหย่อน กล้ามเนื้อคอแยก

ลักษณะ : ดึงเก็บผิวหนังใต้คาง และกระชับกล้ามเนื้อคอร่วมด้วย

ข้อดี : กรอบหน้าคม คอดูเรียวแนบ ลบรอยพับคอได้ดีมาก

ดึงหน้า แบบไหนเหมาะกับคุณ
  • คนไข้บางรายอาจไม่ต้องดึงทั้งหน้า แค่ Mini หรือ Midface ก็เพียงพอ
  • แต่บางรายอาจต้องดึงร่วมกับ Neck Lift หรือ Deep Plane เพื่อให้สมดุลทั้งหน้าและคอ
  • การวางแผนร่วมกับแพทย์เฉพาะทางจะช่วยให้ผลลัพธ์ “ดูอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา” และปลอดภัยสูงสุด

 

ระยะเวลาผ่าตัด
  • โดยเฉลี่ย 2–5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และพื้นที่ที่ทำ
  • ดมยาสลบหรือยาชาเฉพาะที่ + ยานอนหลับ (ตามแพทย์ประเมิน)

 

ข้อดีของการดึงหน้าแบบผ่าตัด
  • ยกกระชับชั้นลึก ไม่ใช่แค่ผิวหนัง
  • ผลลัพธ์ชัดเจน อยู่ได้นาน 5–10 ปี
  • ปรับโครงหน้าให้ดูสมดุล อ่อนวัย และเป็นธรรมชาติ
  • ไม่ต้องทำซ้ำบ่อยเหมือนหัตถการอื่น

 

การพักฟื้นนานไหมหลังผ่าตัด
  • ประคบเย็น 48 ชม. แรก / นอนหัวสูงเพื่อลดบวม
  • พักฟื้นประมาณ 5–14 วัน
  • อาการบวม/ช้ำ จะดีขึ้นใน 7–10 วัน
  • แพทย์จะนัดตัดไหมในประมาณ 5–7 วัน
  • หลีกเลี่ยงการจับ กด บริเวณใบหน้าชั่วคราว
  • สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1–2 สัปดาห์
  • งดออกกำลังกายหนัก 2–3 สัปดาห์
  • แผลจะค่อยๆ หายและเนียนใน 1–3 เดือน
  • ผลลัพธ์เข้าที่เต็มที่ภายใน 3–6 เดือน
การสวมใส่ผ้ารัดหน้า

          ผ้ารัดหน้า คืออุปกรณ์ช่วยกระชับผิวและลดบวมหลังการผ่าตัด เช่น ศัลยกรรมดึงหน้า, ดูดไขมันแก้ม/เหนียง, หรือเสริมคาง การใส่ผ้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลเข้าที่เร็วขึ้น ลดโอกาสเกิดพังผืด หรือผิวไม่เรียบหลังทำ

 

ในการใส่ผ้ารัดหน้า
  • ควรใส่ ต่อเนื่อง 24 ชม. ในช่วง 3–5 วันแรก หรือ ตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลังจากนั้นใส่ เฉพาะตอนนอน ได้อีกประมาณ 1–2 สัปดาห์
  • หมั่นถอดซัก/เปลี่ยนทุกวันเพื่อความสะอาด
  • หากรู้สึกแน่นเกินไป, เวียนหัว หรือชาบริเวณใบหน้า ให้ปรับหรือแจ้งแพทย์ทันที
  • ห้ามใส่กลับด้าน เพราะจุดกดทับอาจผิดตำแหน่ง

 

ถ้าไม่ใส่ผ้ารัดหน้าจะเป็นอะไรไหม
  • อาจทำให้ผิวไม่กระชับหรือไม่เรียบเสมอกัน
  • บวมช้าลง / มีของเหลวค้างใต้ผิว
  • เพิ่มโอกาสเกิดพังผืดหรือรอยบุ๋ม
  • ยิ่งในเคสที่ดูดไขมันหรือดึงหน้า การรัดหน้ามีผลต่อ รูปหน้าเข้าที่ โดยตรง

ทำไมถึงต้องดึงหน้าที่ iDA

เพราะเราไม่ใช่แค่คลินิกศัลยกรรม… แต่คือ พื้นที่แห่งความอ่อนเยาว์ในแบบที่เป็นคุณ

          ที่ iDeal Atelier Clinic (iDA) เราเชื่อว่าการดึงหน้าไม่ใช่แค่การย้อนวัย แต่คือ การฟื้นคืนความมั่นใจ และความงามที่กลมกลืนกับตัวตนของคุณ ด้วยเทคนิคที่ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์จริง และดูเป็นธรรมชาติที่สุด

 

จุดเด่นของการดึงหน้าที่ iDA

          เทคนิคเฉพาะทางโดยศัลยแพทย์ผู้ชํานาญการ เราดึงหน้าโดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ ที่เชี่ยวชาญด้าน Facial Rejuvenation โดยเฉพาะ ทั้งแบบ Mini Facelift, SMAS Lift, Deep Plane, และ Neck Lift

            ผลลัพธ์ที่ ยกขึ้น แต่ไม่แข็ง เราเน้นการดึงที่ โครงสร้างภายใน (SMAS / Deep Plane) ไม่ใช่แค่ตึงผิว จึงให้ผลลัพธ์ที่ ดูอ่อนวัยแต่ยังเป็นตัวคุณ ไม่แข็ง ไม่หลอกตา ออกแบบเฉพาะบุคคล เพราะรูปหน้า และสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียด ก่อนออกแบบแผนการดึงหน้าที่ เหมาะกับคุณที่สุด

 

ความปลอดภัยคือหัวใจของเรา
  • ผ่าตัดในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อมาตรฐานโรงพยาบาล
  • ดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • ติดตามผลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และพยาบาล
  • ฟื้นตัวไว ดูแลครบ เทคนิคแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว พร้อมโปรแกรมดูแลหลังผ่าตัด

 

เพราะเราไม่ได้แค่ยกหน้า

แต่เรายก “คุณภาพชีวิต” และ “ความมั่นใจ” กลับคืนมา

This website uses cookies to improve your experience. Cookie Policy